โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี จับมือหน่วยงานท้องถิ่นและภาคีเครือข่าย ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 1.3 ล้านตัว เสริมสร้างระบบนิเวศน์ทะเลระยองอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 21

โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี จับมือหน่วยงานท้องถิ่นและภาคีเครือข่าย ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำกว่า 1.3 ล้านตัว เสริมสร้างระบบนิเวศน์ทะเลระยองอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 21

 

29 พฤศจิกายน 2566 – บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี) โดยคุณอดิศร วังมูล ผู้อำนวยการสายงานบริหารและองค์กรสัมพันธ์ ร่วมกับ ประมงจังหวัดระยอง สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (ระยอง) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง
สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด กลุ่มประมงเรือเล็ก บริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) กลุ่มบริษัท ปตท บริษัท สตาร์ ปิโตเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัท กรุงเทพ ซินธิติกส์ จำกัด บริษัท โคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอจีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมปล่อย พันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อเพิ่มทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งพื้นที่จังหวัดระยอง (ต่อเนื่องเป็นปีที่ 21) ณ กลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านหาดแสงเงิน ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง โดยมี นายอรัญ ใจตั้ง รองนายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด เป็นประธานในพิธี

กิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำฯ ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำในทะเล ช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศวิทยา เพิ่มรายได้ให้กับอาชีพประมง และช่วยสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชนที่อยู่อาศัย สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างภาครัฐ ชุมชนในพื้นที่ และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง


สำหรับพันธุ์สัตว์น้ำที่มาปล่อยในครั้งนี้ ประกอบด้วย
• กุ้งกุลาดำ จำนวน 1,298,000 ตัว
• หอยหวาน จำนวน 19,000 ตัว
• แม่พันธุ์ปูม้า จำนวน 999 ตัว
รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,317,999 ตัว (หนึ่งล้านสามแสนหนึ่งหมื่นเจ็ดพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าตัว) โดยพันธุ์สัตว์น้ำทั้งหมดนี้ นำมาจากฟาร์มเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ บ้านพยูน ภายใต้วิสาหกิจชุมชนชมรมประมงเรือเล็กพื้นบ้าน อ.เมือง และ อ.บ้านฉางสามัคคี


คุณอดิศร วังมูล ผู้อำนวยการสายงานบริหารและองค์กรสัมพันธ์ โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี เปิดเผยว่า นับเป็นความยินดีที่ได้เห็นความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกิจกรรมการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ที่ได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 21 อันเกิดจากความร่วมมือของภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรมและกลุ่มประมงในพื้นที่ ซึ่งเติบโตและก้าวไปด้วยกัน รวมถึงพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของ จ.ระยอง ที่จะถูกพัฒนา ตามโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC เพื่อสนับสนุนการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพิ่มการจ้างงาน ยกระดับคุณภาพชีวิตและรายได้ของประชาชน พัฒนาชุมชนทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน ตามกรอบการดำเนินงาน ESG (Environment, Social, Governance: สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล) และตามเป้าหมายการดำเนินงานอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs: Sustainable Development Goals) ที่โรงไฟฟ้าบีแอลซีพียึดถือมาโดยตลอด

 

บีแอลซีพี มุ่งพัฒนาพลังงานที่มั่นคง เพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

Related posts